menu
chevron_right
น้ำคือชีวิต
กรมชลเดินหน้าแก้น้ำท่วมน้ำแล้งปราจีนบุรี

“กรมชลประทาน” เร่งติดตามโครงการปรับปรุงคลองธรรมชาติ ทางระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำในพื้นที่บางพลวง จ.ปราจีนบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_19

นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกุล ผู้อำนวยการสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมกรมชลประทาน เปิดเผยว่ากรมชลประทานมีเป้าหมายดำเนินการโครงการปรับปรุงคลองธรรมชาติทางระบายน้ำ ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่บางพลวง ภายใต้งานสำรวจออกแบบ โครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำสาขาจังหวัดปราจีนบุรี ในพื้นที่คลองเดิมทั้งหมด 8 คลอง รวมระยะทาง 130 กิโลเมตร เพื่อขยายคลองเดิมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น และเพิ่มบานประตูระบายน้ำ เพิ่มอาคารควบคุมและเพิ่มสถานีสูบน้ำทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันกรมชลฯ ได้มีการสำรวจและออกแบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนการประชุมในวันนี้ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เพื่อบรรเทาอุทกภัยในลำน้ำปราจีนบุรีและลำน้ำสาขาต่างๆ ซึ่งประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง 

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_2

สำหรับภาพรวมของโครงการฯ คลองเดิมสามารถระบายน้ำได้ แต่ถ้าปรับปรุงแล้วจะเพิ่มพื้นที่ในการระบายน้ำได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ปตร.หาดยาง เดิมมีประตูระบายน้ำ 1 บาน ก็จะทำเพิ่มอีก 1 บาน รวมเป็น 2 บาน และอีกหลายๆ โครงการจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และตอบสนองความต้องการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรอย่างเพียงพอและยั่งยืน

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_9

ด้านนายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี พอถึงช่วงฤดูฝนก็จะเกิดน้ำท่วม พอถึงช่วงฤดูแล้งน้ำเค็มหนุน ก็เกิดปัญหาภัยแล้งอีก ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง ที่ผ่านมาประสบปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ต่อมาในระยะหลังมีก่อการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยโขมง ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง ต้องขอชื่นชมกรมชลประทานที่ได้จัดทำโครงการดังกล่าว เชื่อว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากทั้งในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว จันทบุรีนครนายก ฉะเชิงเทราและชลบุรี เพราะจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้สูงขึ้นถึง 130 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะกลายเป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ เปลี่ยนจากเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมาเป็นแก้มลิงอยู่ในคลองสาขาต่างๆ ก็ต้องฝากไปถึงกลุ่มผู้ใช้น้ำ และทุกภาคส่วนต้องบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ ภายใต้การดูแลของกรมชลฯ สำหรับโครงการนี้จะเป็นโมเดลต้นแบบให้พื้นที่ทั้งประเทศ 76 จังหวัดได้นำไปเป็นแบบอย่างอีกด้วย 

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_1

"การที่กรมชลฯ เปลี่ยนวิถีจากการสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมาเป็นแก้มลิง หรือคลองสาขาต่างๆ นั้น ถือว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างดี อนาคตก็จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้ เพราะเรามีแก้มลิงกระจายเป็นเส้นเลือดฝอยเป็นทั้งประเทศ ซึ่งผมเห็นด้วยกับโครงการนี้ และเชื่อว่าหน้าฝนน้ำก็จะไม่ท่วม หรือหน้าแล้งก็จะมีน้ำทำนา เป็นที่ทราบกันดีว่ากรมชลฯ มีภารกิจในการป้องกันน้ำท่วมและน้ำแล้ง จึงพยายามปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานให้เข้ากับสังคมยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้เกิดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ก็ขอให้โครงการนี้สำเร็จตามเป้าหมายต่อไป เพราะจะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง" นายอำเภอบ้านสร้าง กล่าว

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_6

ส่วนนายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า แม่น้ำปราจีนบุรีเป็นแม่น้ำสายเล็ก มีความคดเคี้ยว จึงมีความจำเป็นต้องตัดคลองเลี่ยงเมืองเนื่องจากสภาพคลองมีขนาดเล็ก ประตูระบายน้ำมีขนาดเล็ก เพื่อให้น้ำไหลลงแม่น้ำบางปะกง และไหลลงสู่อ่าวไทย ที่สำคัญคือคลองต่างๆสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ เพื่อควบคุมระดับน้ำไหลเข้าสู่ตัวเมือง เพื่อปิดกั้นพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเมืองไม่ให้เกิดปัญหาอุทกภัย สำหรับพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ในโครงการนี้มีประมาณ 3 แสนไร่ แบ่งเป็นพื้นที่นาข้าวและบ่อปลา ซึ่งใช้น้ำจากลำคลองต่างๆ เพื่อทำการเกษตรและเลี้ยงปลา ขณะนี้ขั้นตอนการออกแบบเสร็จแล้ว หลังจากนี้ทางกรมฯ จะจัดตั้งงบประมาณและขออนุมัติโครงการต่อไป ซึ่งในอนาคตจะมีการใช้น้ำจากลำคลองต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่น โครงการปรับปรุงคลองธรรมชาติ ทางระบายน้ำ ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่บางพลวง เพื่อให้มีน้ำใช้ในฤดูแล้ง ทั้งในการอุปโภคบริโภค ภาคการเกษตรและการผลิตน้ำประปา ช่วยลดปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำได้อีกด้วย

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_15

ขณะที่นายเอ บุญชัง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง สำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า โครงการปรับปรุงคลองธรรมชาติ ทางระบายน้ำ ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่บางพลวงจะดำเนินการปรับปรุงคลองเดิม มีพื้นที่การเกษตรประมาณ 5 แสนไร่ของจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งซ้ายของจังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากไม่มีน้ำต้นทุน เกษตรกรจะใช้น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำบางปะกง โดยการเปิดประตูระบายน้ำและสูบน้ำเข้าพื้นที่ สำหรับภูมิประเทศตรงบริเวณประตูระบายน้ำหาดยางเป็นพื้นที่ลาดเอียง ทำให้ในฤดูแล้งมีปัญหาต้องดันน้ำขึ้นที่สูง โดยในช่วงเดือนตุลาคมน้ำจะแล้ง เราจะใช้วิธีการสูบน้ำเข้าพื้นที่ ซึ่งลำบากมาก แม่น้ำปราจีนบุรีตรงบริเวณนี้จะมีความคดเคี้ยวมาก โดยการตัดยอดน้ำได้ประมาณ 40 กิโลเมตร เพื่อลดความเสียหายโครงการนี้ส่งผลดีคือสามารถเปิดน้ำเข้าพื้นที่ได้เลยและจะมีสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น โดยเพิ่มการระบายน้ำ เมื่อน้ำเยอะก็จะเร่งสูบออก เมื่อน้ำแล้งก็จะสูบเข้าเพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำ 

"สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคลองมีขนาดใหญ่ขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถเก็บกักน้ำและส่งน้ำไปถึงเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในโครงการมีอยู่ 4 แสนกว่าไร่ แนวโน้มจะทำการเกษตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีน้ำเพิ่มขึ้น เมื่อเรามีน้ำแล้วก็ต้องมีการบริหารจัดการให้ดีที่สุด ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้การบริหารจัดการน้ำได้ง่ายขึ้น ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำก็เข้มแข็งขึ้น ช่วยลดอุทกภัยและภัยแล้ง โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจของจังหวัดปราจีนบุรีและอำเภอบ้านสร้าง" นายเอ กล่าว

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_14

ทางด้านนายวิษณุ เข็มเงิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงกระทงยาม เปิดเผยว่า ตำบลดงกระทงยามและตำบลหาดยางมีจำนวน 11 หมู่บ้าน ประชากร 5,000 กว่าคน 1,000 กว่าครัวเรือน โครงการประตูระบายน้ำบ้านวังชัน นับว่าเป็นโครงการที่ดี เป็นความโชคดีของชาวบ้านที่รอคอยมานาน อยากจะฝากถึงกรมชลฯ ให้ดำเนินการโครงการนี้สำเร็จ เพราะเกษตรกรทั้ง 2 ตำบล ทำนา 2 แสนไร่ มีความต้องการใช้น้ำ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ถ้าในอนาคตมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรอย่างยั่งยืน จะส่งผลให้การประกอบอาชีพต่างๆ ดีขึ้น เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนการบริหารจัดการน้ำที่ผ่านมาก็ได้มีการประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด รวมถึงโครงการปรับปรุงคลองธรรมชาติ ทางระบายน้ำ ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่บางพลวง ซึ่งเป็นโครงการหลัก หากโครงการนี้สำเร็จก็จะมีการบูรณาการร่วมกันเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนต่อไป 

LINE_ALBUM_27112025 ทริปปราจีนบุรี_251129_13

นายจักรกฤษณ์ แก่นวงค์ ประธานกลุ่มบริหารการ ใช้น้ำชลประทาน ตำบล ดงน้อย/กรรมการลุ่มน้ำ บางปะกงภาคเกษตรกรรม กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลดงน้อย อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ทำนาลุ่มสลับดอน นาปีกับนาปรังอาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ถ้าน้ำฝนมาช้า เกษตรกรต้องปรับการทำนาให้เร็วขึ้น จากปลูกข้าว 4 เดือน มาเป็น 3 เดือน หรือ 100 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงฤดูน้ำหลาก ช่วงฤดูทำนาปรังก็ไม่มีน้ำต้นทุน จึงต้องใช้น้ำจากแม่น้ำบางปะกง ถ้าทำนาช้าก็เกิดความเสี่ยงน้ำเค็มรุกล้ำในพื้นที่ เราจึง มองว่าเป็นอุปสรรคอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ชลประทานก็ตาม แต่เป็นคลองธรรมชาติ มีพื้นที่สูงๆ ต่ำๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ประสบอยู่เป็นประจำ สำหรับโครงการนี้ เป็นโครงการขยายคลองเดิมให้มีความสามารถในการระบายน้ำได้ดีขึ้น ปรับปรุงประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำเพิ่มเติม ซึ่งตรงกับความต้องการของเกษตรกรและกลุ่มผู้ใช้น้ำ อยากได้คลองที่สามารถลำเลียงน้ำได้ดี และป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องมีประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ และมีคลองระบายน้ำอย่างทันท่วงที และอยากให้มีการสร้างทดระบายน้ำ (ทบร.) เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มสลับดอนได้รับประโยชน์ ซึ่งทางกลุ่มผู้ใช้น้ำก็เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพื่อให้การระบายน้ำดีขึ้น และระบายน้ำได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำก็ง่ายขึ้น สามารถส่งน้ำให้พื้นที่เป้าหมายได้เร็วขึ้น 

"ทุกวันนี้เราอยู่ในพื้นที่รับน้ำที่ไกลที่สุด เป็นพื้นที่เกษตรกรรม เพราะ ฉะนั้นโครงการนี้จึงมีความสำคัญมากๆ ถ้าโครงการนี้สำเร็จ ก็จะสามารถลำเลียงน้ำได้ดี ช่วยลดต้นทุนในการสูบน้ำได้มาก มีน้ำใช้อย่างทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่" ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานตำบลดงน้อยฯ" กล่าว

 

ติดต่อเรา

อีเมล์ : [email protected]

โทรศัพท์ : 09 8269 1197 08 6888 1918

ที่อยู่ : 299/3  หมู่บ้านเบล็ส วิลล์ รามอินทรา ซอยพระยาสุเรนทร์ 25 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510

©2024 Copyright, Thaiagritec. All rights reserved.